ช่วงนี้ เจอคนรอบข้างที่มีภาวะอารมณ์หลากหลายมาก
เจอแบบมีความทุกข์ แล้วยังมีหลายระดับ ทุกข์มาก ทุกข์ปานกลาง ทุกข์พอทนได้ ทุกข์นิดหน่อย T^T
เจอแบบมีความสุข ก็ยังมีหลายระดับอีก สุขนิดๆ สุขปานกลาง สุขแบบยิ้มทั้งวัน สุขแบบล้นเหลือ ^_^
เวลาเจอความทุกข์ ก็มักจะบอกว่าให้ตั้งสติๆ นะ ค่อยๆ หาทางแก้
พอมาคิดกลับอีกทาง แล้วเวลามีความสุขไม่ต้องมีสติ...แบบนั้นหรอ
แต่ละคนมีเรื่องทำให้เกิดทุกข์กับสุขไม่เหมือนกันซะทีเดียว แตกต่างกันไปตามการรับรู้และประสบการณ์ของแต่ละคน
ตอนที่ทุกข์ต้องมีสติ ก็สมเหตุสมผล
แต่ตอนมีความสุขยิ่งควรมีสติ เพราะเวลามีความสุขจะเกิดความยึดติดมันตามขึ้นมาด้วย
เพราะมีใครบ้างที่ไม่อยากมีความสุข
แต่ความสุขมันก็อยู่ได้ไม่นาน ลักษณะเดียวกับความทุกข์ที่มันก็อยู่ได้ไม่นานเหมือนกัน
คนที่จมกับความทุกข์ ก็จมอยู่กับร่องรอยของความทุกข์ แต่ตัวทุกข์จริงๆ มันหายไปนานแล้ว
เหมือนกับคนที่จมอยู่กับความสุข ก็เพราะยึดติดกับความสุขที่เกิด
แต่ถ้ามันหายไปขึ้นมาล่ะ
ความคิดว่าเป็นความทุกข์จะเกิดขึ้นมาทันที
ก็เพิ่งคิดได้ว่าต่อให้อยู่ในภาวะใดก็ควรมีสติตลอดเวลา
ตอนทุกข์ก็ควรมีสติ จะได้หาทางออก
ตอนสุข ก็ควรมีสติ จะได้รู้ทันความสุขนั้นว่ามันก็ไม่ยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น