วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Internet Garbage

นานมาแล้วตอนเริ่มใช้ internet ใหม่ๆ ก็มีความคิดนี้โผล่เข้ามาในหัว
ความคิดที่ว่า

ในโลก internet น่าจะมีข้อมูลส่วนที่เรียกว่า "ขยะ" อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
หรือเรียกเก๋ๆ ว่า internet garbage

ขยะที่ว่านั้นก็น่าจะเป็นข้อมูลบน internet ที่ไม่สมบูรณ์ 
พวก link ต่างๆ ที่เสีย (broken link) เว็บที่ไม่สามารถหาได้แล้ว 
ภาพบน website ที่ยัง search ได้ แต่เข้าถึงรูปไม่ได้
(ที่จริงน่าจะรวมถึง banner โฆษณาหรือเว็บที่เป็นทางผ่านที่รบกวนการค้นหาข้อมูล)

ขยะพวกนี้มีผลกับเรายังไง
ที่แน่ๆ ทำให้เราเสียเวลามากขึ้น
เสียจำนวนข้อมูล internet มากขึ้น
ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ไม่ว่าจะใช้ทางมือถือ tablet หรือคอมพิวเตอร์

ดูผลเสียต่อคนอาจจะน้อย แต่ถ้าเอาผลเสียของทุกคนๆ ที่ใช้ internet แล้วเจอขยะเหล่านี้คงมีผลมากพอดู

น่าจะมีคนศึกษาเรื่องพวกนี้บ้างนะ


วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

Calories = kcal


เรื่องนี้บางคนยังไม่รู้

Calories = kcal


เวลาดูฉลากอาหารบางประเภทจะเขียนหน่วยพลังงานที่ได้รับเป็น Calories (ขึ้นด้วยตัวใหญ่) 
ซึ่งที่จริงก็คือ kcal (กิโลแคลอรี) นั่นเอง 


แต่...kcal = 1000 calories (ขึ้นด้วยตัวเล็ก) 


แต่ส่วนใหญ่ไม่นิยมแสดงในรูป calories เพราะหน่วยเล็กเกินไป
ทำให้บางคนเข้าใจผิด ทำให้คำนวณแคลอรีของอาหารที่ตัวเองกินผิดไปเยอะเลยยยยยยย


ควรบริโภคก่อน ไม่ใช่วันหมดอายุนะ

                                          
มีคนมาถามว่า ควรบริโภคก่อน หมายถึงวันหมดอายุใช่มั้ย --?
ควรบริโภคก่อน "ไม่ใช่"วันหมดอายุนะคะ ต่างกันลิบลับ 


ควรบริโภคก่อน (Best before date) หมายถึง วันที่เรายังสามารถบริโภคสินค้าที่ยังมีคุณภาพ 
มีความสดใหม่เท่าที่ผู้ผลิตรับประกันได้ แต่ถ้าเราจะกินหลังจากนั้น ก็ไม่เป็นไร แค่คุณภาพของสินค้าจะด้อยลงจากเดิม 
(ในกรณีที่เก็บอย่างถูกวิธี)
ส่วนใหญ่ใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอายุสั้น อย่างมากอยู่ได้ 3 เดือน
ส่วนวันหมดอายุนี่ หมายถึง หมดอายุจริงๆ หลังจากนั้นไม่ควรกินนะคะ


แล้วหลังวันที่ควรบริโภคก่อน เราจะกินได้อยู่มั้ย
คำตอบคือได้ค่ะ ถ้ายังไม่เสีย แต่ความสดใหม่ก็ไม่เท่าตอนแรกแล้ว ก็ถ้าจะบริโภคหลังจากวันที่กำหนด ก็ต้องดูสภาพของสินค้าก่อนนะคะ ^^



มารู้จักเครื่องหมายกระปุกกัน



สินค้าบางอย่างจะเจอเครื่องหมายนี้อยู่ด้านหลัง

เรียกว่า Period-after-opening symbol
หรือ "อายุขัย"  ของสินค้าหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก
ไม่เหมือนกับวันหมดอายุนะ อันนั้นอายุขัยแบบไม่ได้เปิดใช้
ส่วนใหญ่แสดงเป็นเดือน 12M = 12 เดือน





 แบบชัดๆ 


ทำไมถึงต้องเรียนปริญญาเอก

เวลาพูดถึงคนเรียนปริญญาเอก คนทั่วไปคงคิดถึงคนที่พูดไม่รู้เรื่อง :) คงแก่เรียน เก่ง และอาจจะเกิดคำถามว่าเรียนเอกทำไม

การเรียนระดับปริญญาเอก ไม่เหมือนเรียนปริญญาตรีหรือโท ถ้าเปรียบง่ายๆ ก็คือว่า
ปริญญาตรี อาจารย์สอนเนื้อหาที่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพ มีทำแล็บให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
ปริญญาโท อาจารย์สอนเนื้อหาวิชาที่ซับซ้อนขึ้น ผู้เรียนได้ทำวิจัยโดยมีอาจารย์เป็นคนแนะแนววิธีการให้ เจอความรู้ใหม่ๆ
ปริญญาเอก อาจารย์สอนเนื้อหาวิชาที่ซับซ้อนมากกกก ลงลึกเฉพาะด้าน แต่ยังไม่สามารถเอามาเป็นข้อมูลประกอบในการทำวิจัยได้เลย ผู้เรียนต้องเอาข้อมูลเหล่านั้นมาสังเคราะห์ วิเคราะห์อีกที ซึ่งนับว่าเป็นกระบวนการที่ยากมาก ความรู้ที่ได้จากการวิจัยต้องใหม่

ส่วนใหญ่คนที่จะตัดสินใจเรียนเอกมีเหตุผลหลายอย่าง บางคนอยากเป็นอาจารย์ บางคนอยากไปเป็นนักวิจัย หรือบางคนอาจไม่มีเหตุผลอะไร เพราะไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร (มีจริงๆ นะ)

ถ้าคนที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าเรียนเอกเพื่ออะไรจะไม่ค่อยทนทุกข์กับความยากของการเรียนเท่าไหร่ แต่ในคนที่เรียนเอกไปเพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จะทนทุกข์มาก เพราะจะไม่เข้าใจถึงความยากของการเรียน อย่างที่ว่าเรียนเอกมันยากกกกก

ส่วนที่ว่าคนเรียนเอกเก่งมั้ย ตอบว่า ต้องเก่ง แต่เก่งในเรื่องที่เรียนเท่านั้น จะให้เก่งทุกอย่างก็คงไม่ใช่
คนเรียนเอกพูดไม่รู้เรื่องจริงมั้ย ตอบว่า บางคนก็เป็น และบางคนก็ไม่เป็น ขึ้นอยู่กับการฝึกทักษะการสื่อสาร บางคนพูดเรื่องยากให้เป็นเรื่องเข้าใจง่าย แต่บางคนพูดเรื่องง่ายให้เข้าใจยาก 

ที่จริงการเรียนเอกไม่ได้วิเศษมากมายกว่าคนที่จบวุฒิอื่นๆ ถ้าจะเปรียบง่ายๆ การเรียนต่อจากปริญญาตรี ก็เหมือนเป็นการทำงานอีกแบบ คนทั่วไปจบตรี ทำงาน เก็บประสบการณ์ เชี่ยวชาญในด้านที่ตนเองถนัดได้เหมือนกัน ก็ไม่ต่างจากการเรียนโทหรือเอก ที่เป็นการเก็บประสบการณ์อีกแบบ

ผู้เขียนเรียนเอกอยู่ มีความคิดเห็นและมุมมองต่อการศึกษาต่ออีกเยอะแยะ เดี๋ยวจะพิมพ์ต่อไปในครั้งหน้า